โรคเส้นเลือดสมองอุดตัน

เส้นเลือดสมองมีการอุดตันเล็กน้อยชั่วคราว อาจมีเพียงอาการปวดศีรษะรุนแรง ร่วมกับมีอาการทางสมองคือ
ความรู้สึกสับสน การทรงตัวไม่ดี แขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่งชา หรืออ่อนแรงลง มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนด้วย หรือพูดไม่ชัด กลืนน้ำลายลำบาก หรือการมองเห็นผิดปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นเพียงชั่วครู่และหายไปได้เองเมื่อมีเลือดไปไหลเวียน ที่สมองส่วนนั้นได้อีกครั้ง อาการของสมองที่ควบคุมการทำงานของร่างกาย และเป็นอาการเตือนที่ต้องระวัง ต้องไปโรงพยาบาลทันที
หากมีหลอดเลือดอุดตันชั่วคราวหลายๆ ครั้งจะกลายเป็นการอุดตันอย่างถาวร (Thrombotie Stroke) ซึ่งจะทำให้เนื้อสมองขาดออกซิเจน หากขาดออกซิเจนนานจะทำให้เนื้อสมองตายได้ ผู้ป่วยจะปวดศีรษะมากที่สุดอย่างฉับพลันและหมดสติไป เมื่อตื่นขึ้นมาจะพบว่าตนเองเป็นอัมพาตครึ่งตัว (ซีกเดียว) หรืออัมพาตทั้งสองซีกของร่างกาย
ส่วนการปวดศีรษะจากเส้นเลือดสมองแตกนั้น ผู้ป่วยจะปวดศีรษะทันทีปวดมากและเซื่องซึมลง อ่อนแรง แขนและขาข้างใดข้างหนึ่ง ปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยมากขึ้น เริ่มเป็นตั้งแต่อายุน้อยเพียง 20 ปีกว่าก็มี
การักษา
เวลาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแตก ตีบและตัน ควรได้รับการรักษาภายใน 3 ชั่วโมงหลังมีอาการ ระหว่างนำส่งโรงพยาบาลควรให้ผู้ป่วยนอนตะแคงเพื่อป้องกันไม่ให้มีการสำลัก น้ำลายอุดกั้นทางเดินหายใจ การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ช่วยบอกได้ว่าเป็นเส้นเลือดสมองแตกหรือเส้นเลือดอุด ตัน หากพบเลือดในน้ำไขสันหลังบ่งบอกว่าเป็นโรคเส้นเลือดสมองแตก
แพทย์อาจจะใช้ยาฉีดเพื่อละลายลิ่มเลือดให้เลือดไหลเวียนได้ปกติ แต่ยานี้จะใช้ได้ในบางรายเท่านั้น และรักษาตามอาการ ต้องใช้เวลาหลายวันเพื่อสังเกตอาการ จากนั้นจะมีการทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย ซึ่งหากได้รับการรักษาเร็วและทำกายภาพต่อเนื่องวันละหลายชั่วโมงที่บ้านด้วย มีโอกาสหายจากอัมพาตได้
โรคนี้มักเป็นกับผู้ที่มีโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว ไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง และโรคที่ทำให้หลอดเลือดตีบ เช่น โรคเอสแอลอี โรคหลอดเลือดอักเสบ เป็นต้น โรคหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจตีบหรือรั่ว กล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด มีเนื้องอกในห้องหัวใจ เป็นต้น
ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงมักเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่จัด ดื่มสุรา ชอบอาหารไขมันสูง มีความเครียดสูง