มะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย
เตือนคนไทยควรใส่ใจระวัง โรคมะเร็งลำใส้ใหญ่ให้มากขึ้น หลังพบว่า
ในปี 2554 มีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนสูงขึ้น
โดยพบว่าผู้ชายป่วยมากเป็นอันดับ 3 รองจากมะเร็งตับและมะเร็งปอด
ส่วนเพศหญิงขึ้นเป็นอันดับที่ 5 ผศ.นพ.เอกภพ สิระชัยนันท์
อุปนายกมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทยและหัวหน้าหน่วยมะเร็งวิทยา
ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเผยแพร่ข่าวสารความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง
และเพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนได้เข้าใจ
สำหรับโรคมะเร็งลำใส้ใหญ่เป็นมะเร็งอีกชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญมาก
โดยโรคมะเร็งลำใส้ใหญ่เป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นจากเซลล์เยื่อบุลำไส้ใหญ่ซึ่งเป็นทางเดินอาหารส่วนปลายลำไส้ใหญ่สามารถแบ่งได้เป็น
2 ส่วน คือ ลำไส้ใหญ่โคลอน (Colon) และมีส่วนลำไส้ใหญ่ส่วนปลายคือช่วงส่วนยาว 6
นิ้วสุดท้ายก่อนถึงทวารหนัก เรียกว่า ลำไส้ใหญ่ เรคตั้ม (Rectum) จากสถิติทั่วโลกพบมะเร็งลำไส้ใหญ่มากเป็นอันดับ
4 ในผู้ชาย และเป็นอันดับ 3 ในผู้หญิง
นอกจากนี้โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นสาเหตุการตายจากโรคมะเร็งในอันดับที่
4 รองจากมะเร็งปอด, มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งตับ ในประเทศไทย
พบโรคมะเร็งลำใส้ใหญ่ในผู้ชายมากเป็นอันดับ 3 รองจากมะเร็งตับและมะเร็งปอด
พบมากเป็นอันดับที่ 5 ในผู้หญิง รองจากโรคมะเร็งปากมดลูก, มะเร็งเต้านม, มะเร็งตับ
และมะเร็งปอด
สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ค่อนข้างสลับซับซ้อนและยังไม่ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร
แต่ปัจจุบันมีปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำใส้ใหญ่อยู่หลายปัจจัย อาทิ
คนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป, มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่, คนที่เคยมีประวัติเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งรังไข่ มะเร็งมดลูกและมะเร็งเต้านมมาก่อน, คนที่เคยมีติ่งเนื้อ (Polyps) ในลำใส้ใหญ่, คนที่เคยเป็นโรคลำใส้ใหญ่อักเสบ
เคยเป็นโรคอ้วน และสูบบุหรี่มาก่อน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะต้องเกิดมะเร็งทุกรายไป
ผศ.นพ.เอกภพกล่าวว่า
อาการที่ชวนสงสัยว่าอาจเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่พบบ่อย ได้แก่
อุจจาระมีมูกเลือดหรือสีดำคล้ำ หรือดำแดง นิสัยการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงไป เช่น
มีอาการท้องผูก หรือท้องเสียเกิดขึ้นใหม่ หรือมีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย ขนาดของเส้นอุจจาระเล็กลงกว่าปกติมีความรู้สึกเหมือนถ่ายอุจจาระไม่สุด
มีอาการแน่นท้อง, ท้องอืด, ปวดท้อง, อาเจียน
มีอาการอ่อนเพลีย น้ำหนักลดโดยไม่รู้สาเหตุ
หากอยากห่างไกลโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ควรรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ รับประทานอาหารที่มีผักผลไม้มากๆ
หลีกเลี่ยงอาหารพลังงานสูง เช่น ของหวานของมันเพื่อหลีกเลี่ยงโรคอ้วน
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ และทำการตรวจคัดกรองโรคกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยง
หรือมีอาการชวนสงสัยว่าอาจจะเป็นโรคมะเร็งลำใส้ใหญ่ ซึ่งมีหลายวิธี ได้แก่
การตรวจหาเลือดในอุจจาระ การสวนแป้งดูลำใส้ใหญ่ หรือการตรวจลำไส้ใหญ่ทางกล้อง
และหากมีอาการชวนสงสัยว่าจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แพทย์จะทำการตรวจโดยการชัดประวัติ
ตรวจร่างกาย การตรวจหาเลือดในอุจจาระ การสวนแป้งดูลำใส้ใหญ่และหรือการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่พร้อมกับการตัดชิ้นเนื้อเพื่อการวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา
หลังจากนั้นแพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของช่องท้อง
และอื่นๆ เพื่อประเมินระยะของโรค และการแพร่กระจายของโรค
การรักษาโรคมะเร็งลำใส้ใหญ่ ทำได้หลายวิธี
แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและตำแหน่งลำใส้ใหญ่ที่ผู้ป่วยเป็น เช่น
การผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออกสำหรับผู้ป่วยระยะแรก ระยะที่ 2 และ 3
เพื่อป้องกันการกลับมาของโรค, การรักษาเสริมด้วยยาเคมีบำบัด
โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่โคลอน และผู้ป่วยมะเร็ง เรคตั้ม ระยะที่ 2-3
บางราย ควรได้รับการรักษาเสริมด้วยรังสีรักษาร่วมกับยาเคมีบำบัด, การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ลำไส้ใหญ่ระยะแพร่กระจายหรือระยะที่ 4 ที่มีร่างกายแข็งแรงพอ การรักษาประคับประคอง
เช่น การรักษาด้วยรังสีรักษาเพื่อควบคุมอาการปวดและอาการอื่นๆ
จากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และการให้ยาเพื่อบรรเทาและควบคุมอาการปวดจากโรคมะเร็ง